ศาลแพ่งยกฟ้อง"ส.ส.เพื่อไทย" ฟ้อง8ตุลาการรัฐธรรมนูญ คดีละเมิด-ขอให้ยุติวินิจฉัยแก้รธน.ขัดม.68 | พระพุทธบาทดอทคอม

ศาลแพ่งยกฟ้อง"ส.ส.เพื่อไทย" ฟ้อง8ตุลาการรัฐธรรมนูญ คดีละเมิด-ขอให้ยุติวินิจฉัยแก้รธน.ขัดม.68


เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 12 กรกฎาคม ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นาย วรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นาย คารม พลพรกลาง ทนายความเดินทางมาศาลฟ้อง ตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ 8 คน ที่มีมติรับคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่ ประกอบด้วย นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ, นายจรัญ ภักดีธนากุล, นายบุญส่ง กุลบุปผา, นายนุรักษ์ มาประณีต, นายเฉลิมพล เอกอุรุ, นายสุพจน์ ไข่มุกต์, นายจรูญ อินทจาร, และนายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี เป็นจำเลยที่ 1-8 ความผิดเรื่องละเมิด พร้อมเรียกค่าเสียหาย 1,555,000 บาท และดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี และยื่นคำขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินระงับการมีคำวินิจฉัยของจำเลย รวมทั้งขอให้จำเลยยุติการพิจารณาคดีที่ขอให้วินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือ
ไม่ โดยศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีดำหมายเลข 2854/2555 และนัดพร้อมคู่ความวันที่ 8 ตุลาคม นี้ เวลา 09.00 น.
ต่อมาเวลา 19.00 น. ศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง โดยศาลพิเคราะห์คำฟ้องของโจทก์แล้วเห็นว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยทั้งแปด ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และเป็นองค์คณะพิจารณาคำร้องขอให้วินิจฉัยการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ขัดมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญฯ ปี50 หรือไม่ 5 สำนวน ประกอบด้วยสำนวนหมายเลข 18-22 /2555 ของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรค 1 บัญญัติว่า บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้มิได้ โดยวรรค 2 ของบทบัญญัติดังกล่าวระบุว่า กรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการตามวรรค1 ผู้ทราบการกระทำดังกล่าว ย่อมมีสิทธิที่เสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริง และยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว แต่ทั้งนี้ไม่กระทบกระเทือนการดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำการดังกล่าว

ขณะที่รัฐธรรมนูญมาตรา 216 วรรค 1 บัญญัติว่าองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่จะนั่งพิจารณาและทำคำวินิจฉัยต้องประกอบด้วยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่น้อยกว่า5 คน และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ถือเสียงข้างมาก โดยวรรค 2 ระบุว่า ตุลาการซึ่งเป็นองค์คณะทุกคนจะต้องทำความเห็นในการวินิจฉัยในส่วนของตน พร้อมแถลงด้วยวาจาต่อที่ประชุมก่อนการลงมติ จึงเห็นได้ว่าจำเลยทั้งแปดมีอำนาจในการวินิจฉัยสั่งการคำร้องของผู้ร้องในคดีมาตรา 68 ทั้ง 5 รายว่า มีการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้หรือไม่

การที่จำเลยทั้งแปดลงมติรับคำร้องทั้ง 5 เรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาโดยไม่ไต่สวน รวมทั้งการกระทำอื่นของจำเลยทั้งแปดตามฟ้อง จึงเป็นการใช้ดุลพินิจการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์ คดีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นอีกต่อไป พิพากษายกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อศาลมีคำสั่งแล้ว ทำให้ต้องจำหน่ายคดีออกจากสารบบความโดยยกเลิกวันนัดทั้งหมด

ด้านนายคารม พลพรกลาง ทนายความ กล่าวหลังจากฟังคำพิพากษาศาลแพ่งว่า คดีนี้จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อเพราะเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญกระทำการละเมิดสิทธิจริง ส่วนที่จะมีการยื่นหลักฐานเพิ่มเติมหรือไม่นั้นจะปรึกษากับทางทีมทนายอีกครั้ง

Related Articels

0 ความคิดเห็น

Leave a Reply


ดูแลโดย © กุ้งอินเตอร์ kunginternews | เยี่ยมชมเว็ปไซค์ กุ้งอินเตอร์นิวส์