รมว.กลาโหม ถกปรับกำลังทหารชายแดนไทย-เขมร - จวกประชาธิปัตย์สงสัยอะไรให้ถาม ไม่ได้ปิดบัง | พระพุทธบาทดอทคอม

รมว.กลาโหม ถกปรับกำลังทหารชายแดนไทย-เขมร - จวกประชาธิปัตย์สงสัยอะไรให้ถาม ไม่ได้ปิดบัง





รมว.กลาโหม ถกปรับกำลังทหารชายแดนไทย-เขมร - จวกประชาธิปัตย์สงสัยอะไรให้ถาม ไม่ได้ปิดบัง

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 16 ก.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมร่วมกับนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ และผบ.เหล่าทัพ ถึงการปรับกำลังชายแดนไทย-เขมร บริเวณเขาพระวิหาร ว่า ในเบื้องต้นได้มีการเตรียมการปรับกำลังเจ้าหน้าที่ทหารฝั่งไทย โดยจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวณชายแดน (ตชด.) เนื่องจากในวันที่ 18 ก.ค.นี้จะครบรอบ 1ปี ที่ศาลโลกได้มีมาตรการคุ้มครองชั่วคราว

พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ที่ผ่านมาทั้งทางไทยและกัมพูชายังไม่ได้ดำเนินการใดๆตามคำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลกที่ให้ทั้งสองฝ่ายดำเนินการโดยเร็วทั้งนี้ทั้งสองประเทศได้มาหารือร่วมกันในระดับผู้บังคับบัญชาระดับสูงว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้างในเรื่องการปรับกำลังโดยสองประเทศได้ยินยอมพร้อมใจกัน ตนจึงได้ไปหารือกับทางกัมพูชาที่เมืองเสียมราฐ ส่วนที่มีข่าวว่าตนได้เดินทางไปยังกรุงพนมเปญนั้นขอปฏิเสธว่าไม่ได้เดินทางไปแต่อย่างใด ซึ่งการหารือทั้งสองฝ่ายได้หยิบยกปัญหาขึ้นมาหารือร่วมกัน แต่เรื่องอย่างนี้ก่อนที่จะมีการหารือกันต้องมีการสอบถามความเห็นกันมาก่อนว่าเป็นอย่างไร เพื่อเตรียมการไว้ เมื่อถึงเวลาก็สามารถดำเนินการได้เลย

พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวต่อว่า สำหรับการปรับกำลังของแต่ละฝ่ายนั้น ทางกัมพูชาจะปรับกำลังอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา ส่วนไทยจะปรับกำลังอย่างไรก็เป็นเรื่องของเรา ไม่ได้มีกฎข้อบังคับ และก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของอธิปไตยแต่อย่างใด  ส่วนเรื่องคณะทำงานร่วมไทย-กัมพูชา (เจดับบิวจี) ในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบริเวณเขาพระวิหารนั้นก็ดำเนินการร่วมกันจัดการเคลียร์พื้นที่ให้ได้ เพราะพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีทุ่นระเบิดจำนวนมาก โดยทั้งสองประเทศจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาหารือวางแผนร่วมกันที่กทม. ว่าจะดำเนินการเก็บกู้อย่างไร ซึ่งถือว่าเป็นภาพใหญ่ของเจดับบิวจีเพื่อให้ศาลโลกได้เห็นว่าทั้งไทยและกัมพูชาได้มีความร่วมมือกัน และจะต้องรายงานให้ศาลโลกได้รับทราบว่าทั้งสองประเทศมีการปรับกำลังอย่างไร

เมื่อถามว่าในวันที่ดำเนินการปรับกำลังจะมีผู้สังเกตการณ์จากประเทศอินโดนีเซียเข้ามาร่วมคณะด้วยหรือไม่พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวนี้ยังไม่ได้พูดถึง เป็นเรื่องของเจดับบิวจีที่คุยกัน เมื่อถามต่อว่า ในส่วนพล.อ.อ.สุกำพล และ พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมของกัมพูชาได้มีการนัดหมายลงพื้นที่ร่วมกันในวันที่ 18 ก.ค.นี้หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้นัดหมายกัน แต่ในส่วนของตนยืนยันว่าจะลงพื้นที่ของฝั่งไทย ส่วนจะพบกับพล.อ.เตีย บันห์ หรือไม่นั้นได้มอบหมายให้ฝ่ายเสนาธิการทหารของไทยประสานไปยังทางทหารกัมพูชา

เมื่อถามว่าประเทศไทยเดินตามเกมกัมพูชาหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า อย่าถือว่าเป็นอย่างนั้น ให้ถือว่าเราเดินไปพร้อมกัน ในส่วนของเรื่องการปรับกำลังที่ไม่เท่ากันนั้น เนื่องจากกำลังทหารไทยและกัมพูชาในพื้นที่ที่ศาลโลกกำหนดมีจำนวนไม่เท่ากันอยู่แล้วขึ้นอยู่ว่าฝ่ายใดจะเห็นเหมาะสมอย่างไร เมื่อถามอีกว่ามีกระแสข่าวว่าทางกัมพูชาได้ใช้กำลังทหาร แต่แต่งกายชุดของเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวณชายแดนเข้ามาดูแลในพื้นที่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า  “ผมไม่ทราบ ก็ขอให้ลงข่าวดีๆหน่อยละกัน อย่าไปลงข่าวให้มีแต่ปัญหากัน”

เมื่อถามว่านายชวนนท์ อินทรโกมาลสุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแสดงข้อคิดเห็นและข้อสงสัยในเรื่องการปรับกำลังของทางไทยและกัมพูชาว่ามีอะไรซ่อนเร้นหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่าทางพรรคประชาธิปัตย์ก็สงสัยไปทุกเรื่อง ขอให้มาถามตนละกัน หากสงสัยตรงไหนก็ว่ากันมา ทำแบบแฟร์ๆอย่างนี้ ไม่ได้ปิดตรงไหน ตนขอถามว่าจะปิดตรงไหน เมื่อถามต่อว่าในอนาคตอันใกล้จะมีการเปิดเขาพระวิหารหรือไม่ ซึ่งทางกัมพูชาได้มีการพูดคุยเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกันในเรื่องนั้น แต่ถ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นตามลำดับแล้วเชื่อว่าจะทำให้มีโอกาสเปิดเขาพระวิหารได้มากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี

Related Articels

0 ความคิดเห็น

Leave a Reply


ดูแลโดย © กุ้งอินเตอร์ kunginternews | เยี่ยมชมเว็ปไซค์ กุ้งอินเตอร์นิวส์