
โพลหนุน-แก้รธน. เชียร์"ปู" รัฐบาลครบเทอม
เสียงส่วนใหญ่! ให้แก้รายมาตรา "ค้อน"เบรกวาระ3 ศาลจี้416สส.-สว. ต้องชี้แจงคำร้อง
![]() นิติราษฎร์ - นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ นำอาจารย์กลุ่มนิติราษฎร์ แถลงข้อเสนอทางวิชาการ ?การยุบเลิกศาลรัฐธรรมนูญ และการจัดตั้งคณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญ? ที่คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 15 ก.ค. |
นิติราษฎร์หนุนยุบศาลรธน.
วันที่ 15 ก.ค. เวลา 13.00 น. ที่ห้องจิ๊ด เศรษฐบุตร คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะนิติราษฎร์ นิติศาสตร์เพื่อราษฎร แถลงเรื่อง "การยุบเลิกศาลรัฐธรรมนูญ และการจัดตั้งคณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญ" โดยนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติราษฎร์ว่า การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ตามที่เคยหาเสียงของรัฐบาลเป็นสิ่งที่ชอบธรรม เพราะหากแก้ไขรายมาตราจะมีปัญหาในการปรับโครงสร้างขององค์กรที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากแก้เพียง 1 มาตราก็จะไปกระทบมาตราอื่นๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีข้อบกพร่อง การรับคดีไว้พิจารณาโดยอ้างเรื่องการขยายสิทธิที่จะคุ้มครองราษฎร แท้จริงแล้วเป็นการขยายอำนาจศาลรัฐธรรมนูญเอง ถ้ายอมรับคำวินิจฉัยต่อไปจะทำให้ศาลมีสิทธิในการวินิจฉัยการทำหน้าที่ขององค์กรของรัฐโดยอ้างมาตรา 68 ได้ และถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ล้มล้างก็ควรจะจบแล้ว ไม่ควรตั้งประเด็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถทำได้หรือไม่เพราะไม่มีสิทธิ จึงเข้าใจว่าศาลรัฐธรรมนูญรู้ดีว่ามีไม่มีสิทธิ จึงทำคำวินิจฉัยไปในทางการให้ความเห็น ไม่ผูกพันกับองค์กรของรัฐ
หนุนรัฐบาลลุยโหวตวาระ 3
นายวรเจตน์กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้รัฐธรรมนูญนั้น คำวินิจฉัยไม่ได้ระบุว่าห้ามรัฐสภาดำเนินการ แต่แนะนำให้ทำประชามติ ซึ่งโดยหลักการแล้วเมื่อศาลตัดสินว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ไม่ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครองก็สามารถเดินหน้าวาระ 3 ได้ทันที อย่างไรก็ตาม การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเป็นเรื่องที่ยุ่งยากต่อระบบโครงสร้างและยังเกี่ยวพันไปถึงรัฐธรรมนูญฉบับเดิมที่มาจากการรัฐประหาร ดังนั้น การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับและนำกลับไปถามประชาชนจึงถือเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งฝ่ายการเมืองต้องกล้าหาญในการต่อสู้เรื่องนี้ สิ่งที่ต้องทำคือเดินหน้าลงมติวาระ 3 และแก้มาตรา 68 เพื่อเปลี่ยนแปลงอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ (อ่านรายละเอียด น.3)
ขุนค้อนมอบทีมกม.ถกคำวินิจฉัย
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า มอบให้คณะกรรมการฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาไปพิจารณารายละเอียดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ ขอให้รอข้อสรุปจากฝ่ายกฎหมายก่อนว่าเสนอแนวทางอย่างไร ที่วางไว้มีอยู่ 3 แนวทางคือจะเดินหน้าแก้ไขตามร่างกฎหมายเดิมได้หรือไม่ หรือหากจะนำมาปรับปรุงจะมีกระ บวนการอย่างไร หรือจะเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมดโดยยกเลิกของเก่าทิ้ง แล้วยกร่างใหม่เป็นรายมาตรา หรือยกร่างตามมาตรา 291 โดยคงหมวด 1 หมวด 2 ไว้ แล้วตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อร่างตั้งแต่หมวด 3 เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าบางส่วนของพรรคเพื่อไทยเสนอให้ลุยโหวตต่อในวาระ 3 นายสมศักดิ์กล่าวว่าตนไม่ทราบ แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรเดินหน้าลงมติในวาระ 3 ต่อข้อถามว่าเกรงว่าหากฝืนลงมติในวาระ 3 อาจมีคนส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีกครั้ง นายสมศักดิ์กล่าวว่าต้องดูปัญหาด้วย ซึ่งตนไม่เห็นด้วย แต่ทั้งหมดต้องรอข้อสรุปจากฝ่ายกฎหมายก่อน
วัฒนาชี้ศาลไม่ห้ามโหวตวาระ 3
นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงทิศทางการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่อยู่ระหว่างการรอลงมติในวาระ 3 ว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาเราต้องพิจารณาว่าจะเดินหรือไม่เดินต่อในวาระ 3 แม้จะมีหลายกลุ่มออกมาสนับสนุนให้โหวตวาระ 3 ซึ่งนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะหารือร่วมกับทีมกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการรัฐสภาเพื่อไปดูข้อบังคับต่างๆ ว่าจะทำอย่างไร เพราะศาลรัฐธรรมนูญตัดสินออกมาเพียงแค่ยกคำร้องของผู้ร้องอย่างเดียว แต่ไม่มีคำสั่งถึงผู้ถูกร้องว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง
"วันนี้เรายังยืนยันว่าคำสั่งศาลรัฐธรรม นูญไม่ผูกพันกับรัฐสภา อีกทั้งคำสั่งศาลก็ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ดังนั้นทุกฝ่ายควรนำข้อเสนอแนะของศาลรัฐธรรมนูญมาพิจารณาให้รอบคอบเพื่อหาทางออกว่าจะทำอย่างไร เพราะศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้สั่งออกมาว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 จะต้องหยุดหรือไม่หยุด เพียงแต่ให้ข้อเสนอว่าจะต้องทำแบบใดบ้างเท่านั้นเอง จึงอยากเรียกร้องให้คนที่มีแนวความคิดปลุกระดมว่าศาลก้าวล่วงรัฐสภาหรือรัฐสภาไม่ทำตามคำสั่งศาลให้หยุดก่อน เพราะขณะนี้ต้องรอการตีความคำสั่งศาลให้ชัดเจนก่อน" โฆษกประธานสภากล่าว
เผยขุนค้อนขอดูให้รอบคอบ
ต่อข้อถามว่าขณะนี้แกนนำพรรคเพื่อไทย มวลชนคนเสื้อแดงและกลุ่มนิติราษฎร์สนับสนุนให้รัฐสภาเดินหน้าโหวตวาระ 3 นายวัฒนา กล่าวว่าอยากให้ทุกฝ่ายทบทวนการเคลื่อนไหวที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง ขอให้นำคำสั่งศาลมาดูให้รอบคอบ เพราะศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ห้ามรัฐสภาลงมติวาระ 3 เพียงแต่ประธานสภาจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายดูให้รอบคอบ เพราะถ้าไม่มีการลงมติในวาระ 3 หลังจากเปิดสภาในวันที่ 1 ส.ค.จะทำได้หรือไม่ ขณะเดียวกันทางพรรคเพื่อไทย ครม.ก็จะนำคำวินิจฉัยของศาลมาดูเช่นกัน น่าจะออกมาในรูปจะแก้ไขรัฐ ธรรมนูญแบบใดตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมากกว่า
รองปธ.วุฒิฯหนุนประชามติ
ด้านนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวว่าจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ชัดเจนหลายเรื่อง อย่างเช่นการให้ไปทำประชามติก่อน หรือการแก้ตามมาตรา 291 ต้องแก้เป็นรายมาตรานั้น ส่วนตัวอยากให้ทำประชามติถามประชาชนไปเลย โดยนำตัวร่างเดิมที่ผ่านวาระ 1-2 ไปแล้ว ที่กำหนดห้ามแก้ไขในหมวด 2 ว่าประชาชนจะเห็นชอบอย่างไร ไม่ต้องไปเริ่มกระบวนการใหม่ เพราะศาลก็ไม่ได้บอกว่าร่างดังกล่าวเป็นการแก้ทั้งฉบับหรือไม่ แต่ความจริงพรรคเพื่อไทยมีนโยบายในตอนหาเสียงว่าหากเข้ามาเป็นรัฐบาลจะแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งน่าจะเป็นประชามติขั้นแรกอยู่แล้ว และในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้แล้วว่าต้องทำประชามติ แต่เมื่อศาลชี้มาเช่นนี้การต้องเสียเงินประมาณ 5 พันล้านบาทเพื่อทำประชามติ 2 รอบก็ถือเป็นดุลพินิจของท่านแล้ว
ต่อข้อถามถึงกรณีที่มีการระบุว่าหากใช้ร่างเดิมไปทำประชามติอาจถูกยื่นตีความอีกรอบ นายนิคมกล่าวว่าจะไปยื่นได้อย่างไร เพราะประชามติเขาจะทำตอนไหนก็ได้ ในวันที่ 17 ก.ค.นี้มีการเชิญส.ส. ส.ว. 416 คน ที่ถูกร้องตามมาตรา 68 มาประชุมหารือกันอย่างไม่เป็นทางการที่ห้องประชุมรัฐสภา ซึ่งนอกจากประเด็นการขอขยายเวลาส่งคำชี้แจงแล้ว จะหารือเพื่อทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญให้ยกคำร้องดังกล่าวด้วย ในเมื่อศาลมีคำวินิจฉัยให้ยก 5 คำร้องแล้วก็คงไม่มีประเด็นที่ต้องมาพิจารณาอีก
ศาลจี้ต่อ416ส.ส.-ส.ว.ส่งคำร้อง
นายสมฤทธิ์ ไชยวงค์ โฆษกศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เตรียมเรียกประชุมส.ส.และส.ว.ทั้ง 416 คน เพื่อหารือว่าจะต้องทำหนังสือชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่หลังจากศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยยกคำร้อง 5 คำร้องว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ไม่เป็นการล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 ว่า ส.ส. และส.ว. 416 คนจะต้องทำหนังสือชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญตามระยะเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดเพราะเป็นคนละคำร้องคนละกรณีกัน และขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น อีกทั้งเนื่องจากเนื้อหาข้อเท็จจริงและประเด็นต่างๆ ยังไม่ทราบว่าเป็นเรื่องเดียวกับ 5 คำร้องที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยกคำร้องเมื่อวันที่ 13 ก.ค.หรือไม่ ดังนั้นส.ส.และส.ว.ทั้ง 416 คนต้องทำหนังสือชี้แจง
นายสมฤทธิ์กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นที่ 2 ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีข้อเสนอแนะให้จัดทำประชามติหากต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับว่า จากการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นที่ 2 นั้น ศาลรัฐธรรมนูญใช้คำว่า "ควร" หมายถึงเสนอแนะ หากรัฐสภาต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งประเด็นที่แท้จริงอยู่ที่ว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้ แต่สามารถแก้ไขได้เป็นรายมาตรา ส่วนรัฐสภาจะลงมติการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 หรือไม่นั้นเป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่จะดำเนินการ
เรืองไกรโยนหินถอดศาลรธน.
ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหา กล่าวว่าหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นไปในแนวทางล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยตามมาตรา 68 แล้ว ตนจะถอนการร้องเรียน 416 ส.ส.และส.ว.ออกจากการพิจารณาของศาลรัฐธรรม นูญ ตามข้อกำหนดของศาลรัฐธรรมนูญข้อที่ 23 เมื่อผู้ร้องเห็นว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา แม้ศาลยังไม่มีคำสั่งว่าจะจำหน่ายคดีหรือไม่ เพราะคำร้องดังกล่าวถือเป็นการร้องต่อเนื่องจาก 5 คำร้อง แม้ว่าส่วนตัวจะไม่ยอมรับคำวินิจฉัยที่ยังขัดกันเองหลายอย่างอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญที่สุดคือกรณีการรับคำร้องตามมาตรา 68 ที่มีการตีความของศาลรัฐธรรมนูญเอง ซึ่งถือว่ามีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ตามาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ คือส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ กรณีนี้มีการตีความให้ใจความสำคัญของมาตรา 68 ผิดเพี้ยนไป การถอดถอนจากตำแหน่งจะต้องใช้ใช้ส.ส.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของทั้งหมดยื่นเรื่องต่อประธานวุฒิสภา เพื่อให้วุฒิสภาถอดถอนประธานศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกจากตำแหน่ง และยังรวมถึงประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 2 หมื่นคนก็มีสิทธิเข้าชื่อถอดถอนได้เช่นกัน ซึ่งตรงนี้ตนกำลังตามอยู่ว่าใครจะทำ
สดศรีจี้ 8 ตุลาการแจงให้ชัด
นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยกคำร้อง 5 คำร้องว่าการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ไม่เป็นการล้มล้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และศาลรัฐธรรมนูญเสนอแนะให้จัดทำประชามติก่อนหากต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับว่า ตุลาการศาลรัฐ ธรรมนูญทั้ง 8 คนควรออกมาแสดงความชัดเจนว่าจะต้องทำประชามติก่อนหรือไม่หากต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และหากทำประชามติแล้วประชาชนเห็นด้วยให้แก้ไขทั้งฉบับได้หลังจากสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วจะต้องทำประชามติอีกหรือไม่ เพราะคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมานั้นไม่ชัดเจน ถึงแม้ว่าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะออกมาชี้แจง หรือแม้แต่โฆษกศาลรัฐธรรมนูญเองก็ตามที่ออกมาชี้แจงก็ไม่สามารถทำให้เกิดความชัดเจนได้เพราะไม่ใช่ศาล มิฉะนั้นความขัดแย้งต่างๆ ก็จะยังไม่จบ
"ไม่ว่าจะทำประชามติก่อนหรือหลังยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กกต.สามารถดำเนินการได้ทั้งนั้น ซึ่งต้องใช้เงินครั้งละ 2,500 ล้านบาท ใช้เวลาทำประชามติประมาณ 4 เดือน อย่างไรก็ตามยังไม่อยากกล่าวไปถึงขั้นตอนนั้น เพราะขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเลย แม้กระทั่งหากไม่ทำประชามติแล้วลงมติวาระ 3 เลยจะทำได้หรือไม่" นางสดศรีกล่าว
เพื่อไทยนัดถกท่าที 16 ก.ค.
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 16 ก.ค.จะประชุมแกนนำ กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคเพื่อไทยในเวลา 13.00 น. เพื่อหารือวิเคราะห์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการดำเนินการหลังจากนี้ เพราะเมื่อศาลยกคำร้องโดยหลักก็ไม่ควรมีปัญหากับการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก อย่างไรก็ตามรู้สึกแปลกใจศาลที่สั่งว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำประชามติในกรณีแก้ทั้งฉบับ รวมทั้งคำวินิจฉัยขาดความชัดเจนเหมือนเป็นการแนะนำ พรรคเพื่อไทยจะหารือเพื่อความชัดเจน เพราะคำวินิจฉัยสับสนเนื่องจาก ม.291 ไม่ได้บัญญัติว่าให้มีการแนะนำ ทั้งนี้ พรรคจะกำหนดว่าจะเดินหน้าลงมติในวาระ 3 หรือจะทำประชามติก่อนแล้วคงวาระ 3 ไว้ หรือจะนำข้อเสนอและคำแนะนำของศาลที่ให้แก้เป็นรายมาตรามาพิจารณา หรืออาจจะมีแนวทางที่สี่อีก ต้องมาหาข้อยุติเพื่อให้สมาชิกเตรียมความพร้อมกรณีเปิดประชุมสภาสมัยสามัญในวันที่ 1 ส.ค.นี้ โดยต้องได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าจะดำเนินการแก้รัฐธรรมนูญอย่างไรต่อไป
สวนปชป.-ลั่นเดินหน้าแก้รธน.
โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลมีผู้วิจารณ์ไม่เห็นด้วยในหลายประเด็น ตนมองว่าผู้ร้องไม่สามารถยื่นกับศาลโดยตรงได้ ต้องยื่นผ่านอัยการสูงสุด แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องเองโดยตรง ในอนาคตการรับตรงจะมีปัญหาที่ศาลรัฐธรรม นูญจะต้องรับภาระการไต่สวนซึ่งจะมีปัญหา ตนไม่เห็นด้วยที่ศาลเข้ามาก้าวล่วงฝ่ายนิติบัญญัติ ผิดหลักการแบ่งแยกอำนาจ นอกจากนี้การที่ศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าถ้าจะแก้ทั้งฉบับต้องทำประชามติ ซึ่งขัดกับรัฐธรรมนูญปี "50 ที่แก้ก่อนแล้วค่อยทำประชามติ
นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงกรณีที่นายนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีลาออก โดยอ้างอิงเปรียบเทียบกับการเสนอกฎหมายในสมัยรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ที่ยุบสภากรณีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ผ่านว่า เป็นเพียงเกมการเมืองที่ต้องการนำเรื่องดังกล่าวมาล้มรัฐบาล สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เป็นพวกปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยหาเสียงไว้ว่าถ้าเป็นส.ส.จะยกมือแก้รัฐธรรมนูญ แต่พอเป็นฝ่ายค้านกลายเป็นพวกความจำสั้น ลืมสัญญาประชาคมที่ให้ไว้และขัดกับความรู้สึกประชาชน อยากให้พรรคประชาธิปัตย์เลิกเล่นการเมืองแบบนี้ ขณะที่พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป
ชุมพลนัดถกชทพ.อังคารนี้
นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า ตนเคารพในคำวินิจฉัยที่ออกมา ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนายังไม่ได้หารือว่าจะดำเนินการเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไปอย่างไร ภายใน 2-3 วันนี้นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา คงเรียกประชุมพรรคเพื่อหารือแนวทางกันต่อไป แกนนำพรรคต่างๆ คงหารือกันในพรรค วิปรัฐบาลก็เช่นกัน ส่วนเรื่องการโหวตวาระ 3 ที่ค้างสภาอยู่นั้นขณะนี้มีความคิดเห็นกันหลายอย่าง ทั้งต้องการให้เดินหน้าและยุติ ทั้งสองฝ่ายต่างตีความคำวินิจฉัยและมีความเห็นต่างกัน ทุกคนควรคิดและตั้งสติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชุมพล ศิลปอาชา เรียกประชุมสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาในวันอังคารที่ 17 ก.ค.นี้ เวลา 14.00 น. เพื่อกำหนดท่าทีของพรรคต่อการแก้ไขรัฐธรรม นูญภายหลังศาลมีคำวินิจฉัย
โอ๊คเฟซ?ฟ้าหลังฝน"ศุกร์13
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "วันหยุดขอโพสต์อะไรที่อ่านกันง่ายๆ สบายๆ ไม่ซีเรียสนะครับ ถือว่าเราอยู่ในภาวะ "ฟ้าหลังฝน" ที่บรรยากาศย่อมดูโปร่งโล่งสบายกว่าช่วง "ศุกร์ 13 ฝันหวาน" ที่ผ่านมา ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญก็อย่างที่เราทราบๆ กันครับ ออกกลางๆ ที่ทุกฝ่ายยอมรับกันได้ ภาคธุรกิจก็ดูโล่งอกโล่งใจกันเป็นแถวๆ เพราะรู้สึกว่าดีกว่าการเผชิญหน้าซึ่งย่อมจะก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้ประกอบการโดยทั่วไปไม่มากก็น้อย
ยกศัพท์เซียนมวย"ถีบถอย-รอน็อก"
ข้อความในเฟซบุ๊กระบุต่อว่า "ในส่วนของผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตยและความเสมอภาคในสังคม อาจรู้สึกเหมือนกับศัพท์ที่เซียนมวยเรียกว่า "ถีบถอยไปทีนึงก่อน" คือในยกนี้ยังทำอะไรได้ไม่ถนัด อาจเนื่องจากเคยพูดอะไรไว้ จะให้กลับหลังกัน 180 องศาก็ดูว่าจะ Contrast (ตรงข้าม) กันมากเกินไป ก็ควรเซฟกำลังถนอมตัวเอาไว้ เผื่อมีจังหวะจะชนะน็อกกันในยกหน้า วันนี้ทีมงานผมเอาคลิปเบาๆ ให้ข้อคิดมาให้ดูครับ และบอกว่าอยากจะคัดเลือกผู้ที่คอมเมนต์เข้าตาทีมงานจากคลิปนี้เพื่อไปร่วม "เยี่ยมคนแดนไกล ให้หายคิดถึง" ประมาณ 3-5 ท่านจากแฟนเพจทั้งหมด 20 ท่าน ซึ่งในโพสต์หน้าทีมงานจะลงรายละเอียดการร่วมเดินทางให้นะครับ ในเบื้องต้นผมขอบอกใบ้ให้ก่อนว่าเราจะเดินทางกันในวันที่ 24 ก.ค.นี้ เพราะวันที่ 26 ก.ค.เป็นวันสำคัญ ซึ่งแฟนพันธุ์แท้คุณพ่อผมย่อมทราบดีว่าเป็นวันอะไรครับ"
พาแฟนคลับบินเบิร์ธเดย์พ่อแม้ว
นายพานทองแท้ระบุอีกว่า คลิปนี้ชื่อ 2+2=5 ครับ ในคลิปพูดเป็นภาษาอะไรก็ช่างเถอะ แต่มีคำแปลเป็นภาษาไทยอยู่ข้างล่างหลังจากที่ผมดูไป 10 รอบ เมื่อนำมา "วินิจฉัย" แล้วพบว่ามันมีหลายๆ เรื่องที่คล้ายๆ กับเหตุการณ์ในบ้านเมืองเราหลัง 19 กันยา 49 แล้วก็เด็กที่นั่งหลังห้องคนสุดท้ายที่แก้คำตอบจาก 5 เป็น 4 ก็เหมือน "คนเสื้อแดง" มีมวลมิตรเพิ่มขึ้นทุกวัน คล้ายกับจะบอกว่า "ถ้าคุณบอกว่าสองบวกสองเป็นห้า ผมก็กล้าที่จะแดง" อะไรประมาณนี้ (แก้จากเวอร์ชั่นเดิม "2+2 เป็น 5 กูกล้าแดง" ครับ เขาว่ามันไม่สุภาพ เพราะเพจนี้มีเยาวชนอ่านเยอะครับ) ก็ลองเข้าไปดูแล้วเม้นต์กันมานะครับ ใครที่โพสต์เข้าตาทีมงาน 3-5 ท่าน ลางานไว้เลยครับ 24-26 ก.ค.นี้ไปร้องเพลงพร้อมๆ กันครับ "เอ้า!!...Happy... B........ to......."
ปชป.ได้ทีจี้อ๋อยรับผิดชอบคำพูด
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย วิพากษ์วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญโดยระบุให้ศาลรับผิดชอบคำวินิจฉัยว่า นายจาตุรนต์เคยระบุว่าศาลรัฐธรรมนูญเขียนคำวินิจฉัยไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้แล้ว แต่ความจริงเมื่อผลออกมากลับไม่เป็นอย่างนั้น นายจาตุรนต์ควรรับผิดชอบ เรื่องนี้ดูเหมือนคนฝ่ายรัฐบาลจะติดโรคนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงกันหมด คือโรคพูดเองเออเอง สร้างความเชื่อมโยงให้เกิดขึ้นแต่ไม่เป็นความจริง
ยุบนิติราษฎร์แทนยุบศาลรธน.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนเชวง ทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่คณะนิติราษฎร์เสนอให้ยุบศาลรัฐธรรมนูญว่า ขอเสนอให้คณะนิติราษฎร์หยุดแสดงความเห็น เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีความชอบธรรมของกฎหมายที่จะตรวจสอบการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ และศาลรัฐธรรมนูญเป็นหนึ่งในอำนาจตุลาการ คณะนิติราษฎร์ต้องมีสำนึกด้วย โดยเฉพาะนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวมทั้งคณะนิติราษฎร์ทุกคน ตนขอตั้งคำถามว่าเคยอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทุกฉบับหรือไม่ และมีฉบับไหนบ้างที่ศาลวินิจฉัยโดยไม่มีกฎหมายรองรับหรือวินิจฉัยโดยไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงจึงเสนอให้ยุบศาลรัฐธรรมนูญ
"เสียดายที่อ.วรเจตน์ได้รับทุนไปเรียนที่ประเทศเยอรมนี จบกฎหมายมหาชน แต่ไม่เคยสำนึกแม้แต่จะปกป้องกระบวนการยุติธรรม ถ้าติติงเพื่อให้เกิดการปรับปรุงแก้ไขสามารถทำได้ เป็นสิทธิเสรีภาพทางวิชาการ แต่อยากถามกลับไปว่าช่วงระยะเวลาที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยออกมาย่ำยีอำนาจตุลาการต่างๆ อ.วรเจตน์ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน" นายราเมศกล่าว และว่ามีจิตสำนึกที่จะออกมาปกป้องกระบวนการยุติธรรมสักนิดหรือไม่ ทุนที่รับไปเรียนกฎหมายต่างประเทศเคยสำนึกหรือไม่ วันนี้ถึงได้ออกมาแสดงความเห็นให้ยุบศาลรัฐธรรมนูญ และจะออกมาตอนที่พรรคเพื่อไทยกับพวกเสียผลประโยชน์ อ.วรเจตน์ก็จะปกป้องพรรคเพื่อไทย การเสนอให้ยุบศาลรัฐธรรมนูญคนไทยไม่มีใครยอมรับได้ หนึ่งในอำนาจตุลาการที่จะถูกยุบต้องล่มสลายในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และสิ่งที่ง่ายกว่าคือยุบคณะนิติราษฎร์" นายราเมศกล่าว
แนะวรเจตน์สมัครเข้าเพื่อไทย
ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า ขอแนะนำให้นายวรเจตน์กลับไปเรียนที่ประเทศเยอรมนีอีกครั้ง เพราะเป็นประเทศหนึ่งที่มีศาลรัฐธรรมนูญเป็นหลักในการปกครองประเทศ มหาวิทยาลัยที่เรียนไม่เคยสอนแนวคิดแบบนี้ให้นายวรเจตน์ อย่างไรก็ตามเมื่อมีแนวความคิดเดียวกับพรรคเพื่อไทยก็ขอแนะนำให้นายวรเจตน์ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และมาต่อสู้กันในความคิดเห็นทางการเมือง อย่าเป็นอีแอบทางการเมือง และขอให้เผาตำราที่เคยเขียนเรื่องศาลรัฐธรรมนูญทิ้งด้วย เพื่อให้ลูกศิษย์ไม่สับสนว่าสิ่งที่เรียนกับแนวคิดของนายวรเจตน์เป็นคนละเรื่องกัน
ส.ส.ผู้ร้องติงโหวตวาระ 3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันเดียวกัน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าทีมกฎหมายของพรรค ในฐานะ 1 ในผู้ร้องคดีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ว่าเป็นการล้มล้างการปกครองฯ ตามมาตรา 68 หรือไม่ นัดผู้ร้องคดีดังกล่าว 3 คน อาทิ นายวันธงชัย ชำนาญกิจ ผู้ร้องที่ 2 มาร่วมหารือพร้อมจิบกาแฟกันที่อาคารม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช หลังที่ทำการพรรคประชาธิ ปัตย์ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา
ภายหลังการพูดคุยนายวิรัตน์เปิดเผยว่า ตนและผู้ร้อง 3 คนนัดพูดคุยกันว่าถ้าฝ่ายรัฐบาลจะเดินหน้าโหวตวาระ 3 แล้วเราจะทำอย่างไร รวมทั้งพูดคุยเรื่องสถานการณ์ทั่วไปและดูทิศทางบ้านเมืองจะไปในทางไหน การหารือคิดว่ารัฐบาลคงไม่กล้าเดินหน้าโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา มีโอกาสเข้าข่ายที่จะถูกยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่งอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ต้องพูดคุยและขอความเห็นชอบจากสมาชิกพรรคก่อน โดยจะหารือกันในวันประชุมส.ส. พรรค เพราะกระบวนการที่ผ่านมาเป็นการดำเนินการของตนคนเดียวเท่านั้น
รอปชป.ถกกำหนดท่าที
นายวิรัตน์กล่าวต่อว่า หลังจากนี้เมื่อพรรคเปิดประชุมตนจะขอชี้แจงต่อที่ประชุมพรรคว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรบ้าง และต้องดูก่อนว่าที่ประชุมพรรคจะเห็นด้วยหรือไม่ เนื่องจากต้องเข้าชื่อ 125 คน ยื่นถอดถอนต่อประธานวุฒิสภา หากรัฐบาลพยายามเดินหน้าโหวตจะยิ่งหนักเข้าไปอีก ส่วนการที่ขณะนี้คนในรัฐบาลพูดกันว่าจะให้โหวตวาระ 3 ก็เป็นเพียงการขู่เท่านั้น ศาลรัฐธรรมนูญเดินถูกต้องแล้วตนไม่ติดใจอะไร เพียงแต่เห็นว่าหากพรรคเพื่อไทยจะสร้างปัญหาอีกครั้งบ้านเมืองจะเดินหน้าต่อไปได้ยาก ขณะนี้อยู่ที่ฝ่ายรัฐบาลจะเฝ้าบ้านเฝ้าเมืองอย่างไร หรือจะสร้างปัญหาแทนที่จะแก้ไขปัญหาซึ่งจะทำให้รัฐบาลทำงานยากมากขึ้น
สมชายรดน้ำศพอดีตส.ส.ลำพูน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 ก.ค. ที่ศาลาบำเพ็ญบุญ วัดสันทราย ต.บ้านธิ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน มีพิธีรดน้ำศพนายสถาพร มณีรัตน์ อดีตส.ส.ลำพูน เขต 2 พรรคเพื่อไทย ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคไตวาย เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ อดีต รมว.วัฒนธรรม นายสุรพล เกียรติไชยากร ส.ส.เชียงใหม่ นายกฤษดาภรณ์ เสียมภักดี ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นายพินิจ จันทรสุรินทร์ อดีตส.ส.ลำปาง นายสมศักดิ์ บุญเปลื้อง ส.ว.ลำพูน นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน เขต 1 พรรคเพื่อไทย นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน รวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่น ตลอดจนข้าราชการและประชาชนร่วมรดน้ำศพกว่า 1 พันคน
ทั้งนี้ ทางญาติพี่น้องได้ขอพระราชทานเพลิงศพ โดยมีกำหนดพิธีในวันจันทร์ที่ 23 ก.ค. เวลา 15.00 น. ณ สุสานบ้านสันต้นค่า ต.บ้านธิ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน
ด้านนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน เขต 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ทางพรรคจะตัดสินใจให้ลงสมัครรับเลือกตั้งแทนนายสถาพรที่เสียชีวิตไปนั้น นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ จะเป็นผู้ตัดสินใจ โดยจะประชุมหารือในวันที่ 16 ก.ค. ต้องยอมรับว่าผู้ที่จะเป็นตัวแทนของพรรคต้องเป็นบุคคลที่ประชาชนรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี
โพลชี้ชาวบ้านโล่งใจหลังมติรธน.
วันที่ 15 ก.ค. สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง "คนติดตามข่าวการเมืองคิดอย่างไรต่อผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ กับบทบาทของนายกรัฐมนตรีหญิงที่ประชาชนอยากได้เพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า" เมื่อถามถึงความคิดเห็นหลังจากทราบผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.4 ยอมรับ แต่ไม่ถึงกับไปชักชวนคนอื่นให้มาเห็นด้วย
ผลสำรวจพบด้วยว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.2 มีความสุขมากถึงมากที่สุดหลังฟังผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงบานปลาย และผลการตัดสินมีเหตุมีผลรับฟังได้ ในขณะที่ร้อยละ 30.9 มีความสุขปานกลาง และร้อยละ 11.9 มีความสุขน้อยถึงไม่มีความสุขเลย
เมื่อถามประชาชนว่า ประเทศไทยควรเดินไปในทิศทางใดหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 72.8 อยากให้เลิกแบ่งสี แบ่งฝ่าย ทุกคนคือคนไทยด้วยกัน ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.9 ยังกังวลต่อปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองจะรุนแรงบานปลายหลังการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ในขณะที่ร้อยละ 42.1 ไม่กังวล ขณะที่เกินครึ่งหรือร้อยละ 52.3 สนับสนุนให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเฉพาะเป็นรายมาตรา ร้อยละ 14.9 สนับสนุนให้แก้ไขทั้งฉบับ แต่เกือบ 1 ใน 3 ไม่สนับสนุนเลย
เมื่อถามถึงเวลาที่อยากให้โอกาสรัฐบาลชุดปัจจุบันทำงานภายใต้การนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.4 ให้เวลามากกว่า 2 ปี ถึงอยู่ครบเทอมจนหมดวาระ โดยเกินครึ่งหรือร้อยละ 52.4 ระบุว่าเวลานี้เหมาะสมแล้วที่จะปรับคณะรัฐมนตรี ในขณะที่ร้อยละ 36.9 ระบุเร็วเกินไป ร้อยละ 10.7 ระบุช้าเกินไป
ด้านสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เผยผลสำรวจหลังการวินิจฉัยคดีแก้ร่างรัฐธรรมนูญของศาลสิ้นสุดลง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 62.55 รู้สึกโล่งใจที่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น สถานการณ์คลี่คลายลง และทำให้บรรยากาศทางการเมืองดีขึ้น ส่วนประชาชนร้อยละ 81.67 เห็นว่าการตัดสินของศาลเป็นไปตามตัวบทกฎหมาย ส่วนร้อยละ 45.91 เห็นว่าควรชะลอแก้รัฐธรรมนูญออกไป เพราะไม่อยากเห็นบ้านเมืองวุ่นวาย พร้อมทั้งอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เศรษฐกิจ และการป้องกันน้ำท่วมก่อน
นอกจากนี้ ร้อยละ 42.57 ยังเห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญมีผลทำให้นักการเมืองหยิบประเด็นนี้มาทะเลาะกัน และเป็นปัญหาใหญ่ของการเมืองไทย ส่วนร้อยละ 64.15 เห็นว่าการเมืองไทยหลังจากนี้จะยังคงทะเลาะกันเหมือนเดิม และต่างฝ่ายต่างเล่นเกมการเมืองกันต่อไป
ปชป.ชี้เขมรแลกจัดถกมรดกโลก
วันที่ 15 ก.ค. นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยือนกัมพูชา โดยพบปะกับ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีกัมพูชา รวมถึงมีการลงนามถอนทหารออกจากเขตทหารในพื้นที่ปราสาทพระวิหารว่า ตนไม่ขัดขวางถ้าการถอนทหารทำได้จริงทั้งสองฝ่าย แต่ไม่แน่ใจว่ากัมพูชาจะยอมถอนทหารออกจากพื้นที่หรือไม่ สมัยที่ตนอยู่กระทรวงการต่างประเทศการถอนทหารของกัมพูชาคือการเปลี่ยนชุดแต่งตัวเป็นพลเรือนแทน
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า สิ่งที่เป็นข้อสังเกตคือการถอนทหารครั้งนี้ดูง่ายเกินไป เพราะก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีกัมพูชาไม่เคยมีท่าทียินยอม เชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการปล่อยให้กัมพูชาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมมรดกโลกในปี 2556 โดยไทยไม่แข่งเสนอตัวสู้ แต่กลับไปยอมรับเป็นรองประธานภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกให้กัมพูชาด้วย ถือเป็นการทำลายการต่อสู้ของรัฐบาลที่ผ่านมาและละทิ้งโอกาสที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ เรื่องนี้จะมีผลต่อการตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร

Related Articels
- แก๊สแอมโมเนียรั่ว!คนงานหนีตายเจ็บ10
- แถลงการณ์ฯสมเด็จพระนางเจ้าฯทรงพระประชวร
- รวบแล้วแก๊งโจ๋ใช้ไม้เบสบอลฟาด-ปล้นทรัพย์ 2 นักร้องเคพีเอ็น
- บีบีซีแฉขบวนการผีกด'ไลก์'เฟซบุ๊ก ลงทุนสูญ-สินค้าไม่เข้าถึงลูกค้า
- หนุ่ม 'ไอ้จ้อน' ใหญ่สุดในโลก 13.5 นิ้ว ถูกกักที่สนามบิน จนท.คิดว่าซุกซ่อนระเบิด
- ปตท.-บางจาก สุดอั้น ขึ้นเบนซิน 50สต. หลังราคาตลาดโลกพุ่ง
- ดีเอสไอชงป.ป.ช.เชือด ซื้อGT200 หาระเบิดไม่ได้-แพง-ส่อฮั้วประมูล
- เวียนเทียพระพุทธบาท
- เพลิงไหม้ ใกล้พิธีเปิด ตักบาตรดอกไม้ สระบุรี
- ตักบาตรดอกไม้ สระบุรี 2555 สระบุรี
- ตักบาตรดอกไม้ สระบุรี 2555 ช่วงเช้า ตักบาตรพระ 3,000 รูป ดอกไม้ ข้าวสาร อาหารแห้ง
- หนุ่มมะกันบุกกราดยิงสยองในโรงหนังฉาย "แบ๊ทแมน" ภาคใหม่-ตายเกลื่อน 14 ศพ! ชมคลิปข่าว
- งานวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเปิดตัวประธาน นปช.พระพุทธบาท สระบุรี
- "กมล บันไดเพชร" เผย "พล.อ.-พ.อ." ช่วยทำเอกสารผ่อนผันเกณฑ์ทหารให้ "มาร์ค"
- "สุกำพล" ยันเอกสารทหารที่ "มาร์ค" ถือของปลอม-"ศิริโชค" แถแทนไม่ได้หนีทหาร!
- ผลสอบคดีหนีทหาร "กห. "สรุป พิรุธ"สด.9"มัดมาร์ค
- เพื่อไทยร่วมออกแถลงการณ์ระบุยังไม่ได้ข้อยุติแก้ไข รธน. ต้องรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญป็นทางการก่อน
- โพลหนุน-แก้รธน. เชียร์"ปู" รัฐบาลครบเทอม
- รมว.กลาโหม ถกปรับกำลังทหารชายแดนไทย-เขมร - จวกประชาธิปัตย์สงสัยอะไรให้ถาม ไม่ได้ปิดบัง
- โฆษกศาลรธน.แนะคดีตามม.68 ยื่นตรงได้ ปัดวิจารณ์รบ.เดินหน้าวาระ3