
นายพร้อมพงศ์อ่านแถลงการณ์พรรคเพื่อไทยว่า 1.เนื่องจากขณะนี้คำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญก็ดี คำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเอง ยังมิได้ประกาศอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่อาจที่จะวิเคราะห์หรือหาข้อสรุปที่จะโต้แย้งคัดค้าน หรือดำเนินการใด ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ 2.พรรคเพื่อไทยยังคงยืนยันในข้อคัดค้านที่ได้แถลงไว้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ใน 2 ประเด็น คือ 1) พรรคเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องไว้วินิจฉัยตามมาตรา 68 และ 2) ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจที่จะวินิจฉัยกระบวนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของฝ่ายนิติบัญญัติ
3.สำหรับประเด็นปัญหาที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในขณะนี้ เช่น จะมีการลงมติในวาระที่ 3 หรือไม่ จากสอบถามประชามติจากพี่น้องประชาชนก่อนหรือไม่ เห็นว่ากระบวนการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ มีองค์ประกอบสำคัญ จาก ส.ส.พรรคเพื่อไทย พรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ว. จึงมีความจำเป็นที่จะต้องรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่กล่าวมา เพื่อประกอบการพิจารณาว่าจะมีความเห็นต่อกรณีดังกล่าวอย่างไร จึงเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะหาข้อยุติในประเด็นดังกล่าวในขณะนี้
"พรรคเพื่อไทยขอแถลงว่า พรรคยังคงมีจุดยืนที่เป็นนโยบาย ยืนยันที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ให้เป็นประชาธิปไตย และยึดมั่นในหลักนิติรัฐ นิติธรรม เพื่อลดปัญหาอุปสรรคจากการใช้รัฐธรรมนูญ 2550 ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง พรรคถือว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยจัดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ เป็นกระบวนการประชาธิปไตย ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ได้ใช้อำนาจของตนเองเป็นการสถาปนารัฐธรรมนูญโดยพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยของประเทศอย่างแท้จริง" แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย
ด้านนายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร ในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นว่าคำวินิจฉัยกลางของศาลและคำวินิจฉัยส่วนตนยังไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ จะมีคำอธิบายจากทีมงานของศาล ทั้งที่ข้อเท็จจริงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 216 บัญญัติชัดเจนว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญองค์คณะทุกคนต้องทำความเห็นส่วนตนมาแถลงด้วยวาจาก่อนการลงมติ คือต้องมีความเห็นส่วนตนก่อนจึงมีคำวินิจฉัยกลางได้ อีกทั้งศาลบอกว่า ภายใน 15 วันนับแต่มีคำวินิจฉัยจะได้เห็นคำวินิจฉัยทางการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อดูว่าคำวินิจฉัยที่ศาลอ่านกับที่ลงในราชกิจจานุเบกษามีความต่างกันเพียงใด
"วันนี้เราได้เห็นทีมโฆษกศาลรัฐธรรมนูญได้อธิบายคำวินิจฉัยของศาล ทั้งที่โฆษกศาลรัฐธรรมนูญไม่มีหน้าที่อธิบายคำวินิจฉัย เพราะคำวินิจฉัยต้องชัดเจนนำไปปฏิบัติได้ พรรคไม่ทำอะไรได้เพราะคำวินิจฉัยไม่ชัดเจน ดูการแถลงของโฆษกศาลนั้น คำแถลงดังกล่าวอยู่ในส่วนใดของคำวินิจฉัยหรือไม่ จึงเห็นว่าความเห็นส่วนตนของตุลาการต้องมี และทุกคนจะดูว่าคำวินิจฉัยศาลจะเป็นอย่างไร ขอให้ศาลปฏิบัติเรื่องนี้ให้ชัดเจนด้วย" นายพีรพันธุ์กล่าว
เมื่อถามว่า หลังจากนี้พรรคจะสอบถามแนวปฏิบัติจากศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายมีอาการมึนงงไปหมด โดยคำวินิจฉัยของศาลมีทั้งข้อคิดเห็นและข้อแนะนำไม่ใช่ปกติวิสัยในการตัดสินคดีในศาล สิ่งที่ชัดเจนเราจะรอสิ่งที่เป็นทางการก่อน ดังนั้น สิ่งที่ประชุมพรรคไม่ได้ต้องการให้เรื่องยืดเยื้อ แต่สิ่งที่จะบอกความชัดเจนได้ดีที่สุดคือลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการ โดยพรรคยืนยันภาระผูกพันที่จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ สิ่งสำคัญเรายืนยันว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้อง เพราะเป็นการขยายขอบเขตอำนาจศาลเกินความจำเป็น ทั้งที่ตั้ง ส.ส.ร.ทำได้ไม่ขัดต่อมาตรา 68 เรายืนยันจุดยืนเราได้ สิ่งที่ดีที่สุดขณะนี้คือความชัดเจนจากลายลักษณ์อักษร ซึ่งยังมีเวลาเปิดสมัยประชุมรัฐสภาในวันที่ 1 สิงหาคม จะต้องให้รอบคอบ ดึงประชาชนให้มาเกี่ยวข้องให้มากที่สุด อีกทั้งเรายังไม่อยากจะจินตนาการให้เกิดปัญหาด้วยหากจะลงมติในวาระที่ 3 ทันที
