พบกันอีกครั้งเป็นประจำทุกสัปดาห์ ในคอลัมน์พาชิมของหนังสือพิมพ์ “บ้านเมืองรายวัน” และทุกครั้งที่พบกัน “แม่ลิ้นจี่” เจ้าเก่าคนเดิมเป็นต้องมีเมนูจานเด็ดจากทั่วทุกสารทิศมาแนะนำให้แฟนคอลัมน์ได้พากันไปลิ้มลอง....!
ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้พากันไปอิ่มเอมกับเมนูอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่นกันมาพอหอมปากหอมคอ มาในฉบับนี้ “แม่ลิ้นจี่” จะขออาสาพาท่านผู้อ่านเดินทางออกนอกเมืองกรุงกันอีกครั้ง เพื่อไปแวะชิมอาหารจานอร่อยประเภทก๋วยเตี๋ยวกันที่อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้เราพากันออกเดินทางด้วยระยะทางเพียง 130 กิโลเมตรจากเมืองกรุง พาครอบครัวไปไหว้รอยพระพุทธบาทเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตในช่วงปีใหม่และตรุษจีนก็คงจะดีมิใช่น้อย ซึ่งร้านที่กำลังจะแนะนำกันในวันนี้เขามีตำนานเล่าขานกันมานานนมในเรื่องของการทำเป็ดตุ๋น และเป็นร้านแรกของอำเภอพระพุทธบาทที่เปิดขาย“ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น” สูตรยาจีนมานานกว่า 48 ปี ร้านที่กำลังกล่าวถึงอยู่นี้เขามีชื่อว่า “ร้านสถาพร”
ย้อนอดีตไปเมื่อประมาณ 60 ปีที่ผ่านมา “คุณแม่กิมเอ็ง แซ่เอี้ยว” ซึ่งปัจจุบันอายุ 86 ปี ถิ่นกำเนิดอยู่ในย่านโบ๊เบ้ของเมืองกรุง ได้แต่งงานและติดตามสามีมาตั้งรกรากอยู่ที่อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ซึ่งการเดินทามาที่นี่ในยุคนั้นไม่ได้สะดวกสบายเหมือนอย่างทุกวันนี้ แม่กิมเอ็งกับสามีต้องเดินทางรอนแรมมาด้วย “รถไชโย” ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้ไอน้ำในการขับเคลื่อน ต้องแวะกลางทางเพื่อเติมน้ำ เติมฟืนมาเป็นระยะๆ ถนนหนทางก็เป็นแค่ทางเกวียนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางก็ใช้เวลานานกว่าหนึ่งวัน แม่กิมเอ็งและสามีมาปักหลักชีวิตอยู่ที่ห้องแถวไม้หน้าวัดพระพุทธบาท ช่วยกันทำมาหากินสร้างครอบครัวจนมีพยานรักเพิ่มมาอีก 8 คน
ในช่วงหนึ่งของชีวิต “แม่กิมเอ็ง” ต้องสูญเสียเสาหลักของครอบครัวคือสามีไปด้วยอุบัติเหตุอย่างไม่คาดคิด ทิ้งลูกๆ ซึ่งยังเล็กไว้ให้ดูแลด้วยความลำบาก แม่กิมเอ็งต้องทำมาหากินสารพัดเพื่อความอยู่รอดของลูกๆ ต้องเปิดร้านตั้งแต่ตี 5 ขายข้าวราดแกงสารพัดอย่าง พอดีที่บ้านเลี้ยงเป็ดไร่ทุ่งไว้มากมายจึงแบ่งเป็ดที่เลี้ยงไว้วันละสองตัวมาทำเป็ดตุ๋นสูตรยาจีนเปิดขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดในช่วงสาย โดยนำชื่อสกุลว่า “สถาพร”มาตั้งเป็นชื่อร้านเมื่อปี พ.ศ. 2505 ซึ่งนับได้ว่าที่นี่เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้าแรกในอำเภอพระพุทธบาทก็ว่าได้ที่เปิดขายกันมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ก๋วยเตี๋ยวเป็ดสูตรเด็ดของแม่กิมเอ็งเปิดขายกันมานานจนมีลูกค้าขาประจำอยู่มากมาย ถ้าจะถามคนเก่าแก่ของที่นี่คงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่รู้จักร้านก๋วยเตี๋ยวสถาพร แม่กิมเอ็งประกอบอาชีพขายข้าวราดแกง และก๋วยเตี๋ยวจนสามารถส่งเสียให้ลูกๆ ได้รับการศึกษาจนจบปริญญาและเป็นใหญ่เป็นโตในสายงานกันหลายคน และในวันหยุดสุดสัปดาห์บรรดาลูกๆ หลานๆ ก็จะพากันมาช่วยกันทำมาค้าขาย
ปัจจุบัน “แม่กิมเอ็ง” ซึ่งอยู่ในวัยชราได้ถ่ายทอดสูตรเด็ดของการทำ “เป็ดตุ๋นสูตรยาจีน” ให้ “เจ๊ลั้ง”ลูกสาวคนโต และ “คุณวงเดือน” ลูกสาวคนเล็กเป็นผู้สืบทอดกิจการ ที่ร้าน “สถาพร” จะเป็นร้านห้องแถวเล็กๆ แบบชาวบ้านไม่ได้เลิศหรูอลังการ แต่เรื่องรสชาติของอาหารนั้นบอกได้เลยว่าอร่อยเข้าขั้นพอที่จะแนะนำกันได้แบบไม่ขายหน้า แถมราคายังประหยัดเหมาะสมกับยุคเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากเป็ดตุ๋นแล้วเมนูอร่อยอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ไม่ว่าใครมาก็ต้องสั่งนั่นก็คือ “ก๋วยเตี๋ยวหมูสูตรสถาพร” และ “ผัดไทห่อไข่” ส่วนเมนูจานเด็ดที่ “แม่ลิ้นจี่” จะแนะนำให้ลองสั่งมาชิมกันในวันนี้ก็มี
ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น... มีให้เลือกสั่งกันสารพัดเส้น ไม่ว่าจะเป็นเส้นเล็ก เส้นใหญ่ บะหมี่ เขาจะใช้เป็ดไร่ทุ่งตัวเล็กที่ปล่อยเลี้ยงกันตามทุ่งนาเนื้อแน่น นำไปต้มเคี่ยวกับเครื่องพะโล้และยาจีนจนสุกได้ที่ จากนั้นจึงใส่เห็ดหอมหรี่ไฟอ่อนๆ ให้ค่อยๆ เปื่อยไปทีละน้อยตั้งแต่เช้านานกว่า 3 ชั่วโมง มีให้เลือกสั่งทั้งส่วนที่เป็นน่อง สะโพก และปีก ราดด้วยน้ำซุปร้อนๆ ความอร่อยอยู่ที่เนื้อเป็นที่ตุ๋นมาจนเปื่อยนุ่มเคี้ยวกินง่ายแทบละลายในปาก น้ำซุปหอมกรุ่นจากเครื่องพะโล้และยาจีน เสิร์ฟใส่ชามมาร้อนๆ ในราคาชามละ 25-30 บาท
ก๋วยเตี๋ยวสูตรสถาพร... อาหารจานนี้จะเป็นเมนูสูตรเฉพาะของร้านนี้ที่ไม่มีใครเหมือน จานนี้จะเป็นแบบก๋วยเตี๋ยวแห้ง เขาจะนำเส้นบะหมี่ไข่ไปลวกจนสุกได้ที่ใส่ไว้ในจานรองด้านล่างด้วยผักกาดหอม เติมด้วยเครื่องปรุงสารพัดอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตับหมู หมูเด้ง เนื้อหมูลวก ไส้ เกี๊ยวทอด และไข่ต้ม เสิร์ฟแถมมาให้พร้อมน้ำซุปกระดูกหมูอีกหนึ่งถ้วย ความอร่อยอยู่ที่เส้นบะหมี่เส้นเล็กเหนียวนุ่ม หมูเด้งที่หมักมาจนเปื่อยนุ่มเคี้ยวกินเด้งดึ๋งอยู่ในปาก ชอบเผ็ดเติมพริก แต่ต้องขอบอกพริกของที่นี่เผ็ดสะใจต้องคอยระวัง ใครชอบเปรี้ยวก็เติมน้ำส้มตามใจชอบ ซดน้ำซุปตามได้คล่องคอชื่นใจ ในราคาชามละ 25-30 บาท
ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น... มีให้สั่งสารพัดเส้น เขาจะใช้หมูส่วนขั้วตับที่หนึ่งตัวจะมีแค่เพียงเล็กน้อย นำไปต้มตุ๋นกับเห็ดหอม เครื่องเทศ และยาจีนจนสุกเปื่อยน้ำซุปออกเป็นสีน้ำตาลเข้ม ตักเสิร์ฟมาในชามร้อนกรุ่นกลิ่นหอมโชยมาแต่ไกล ความอร่อยอยู่ที่หมูขั้วตับเคี้ยวกินได้เปื่อยนุ่มละมุนลิ้น น้ำซุปกลมกล่อมรสชาติกำลังดีกลิ่นยาจีนไม่แรงจนเกินกิน ไม่ว่าจะสั่งแบบใส่เส้น หรือสั่งมากินแบบเกาเหลาก็อร่อยได้ทั้งสองแบบ ในราคาชามละ 25-30 บาท
ก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูอบเห็ดหอม... เขาจะใช้ซี่โครงหมูกระดูกอ่อนส่วนที่เรียกว่าใบพาย นำไปอบด้วยไฟอ่อนๆ ใส่เห็ดหอม เครื่องเทศ และยาจีน ใช้เวลาอบนานพอประมาณจนส่วนที่เป็นเนื้อเปื่อยนุ่มแต่ไม่เละ ความอร่อยอยู่ที่กระดูกอ่อนส่วนใบพายเคี้ยวกินได้กรอบกรุบสนุกปาก น้ำหมูอบเข้มข้นขลุกขลิกราดมาบนเส้นก๋วยเตี๋ยว สั่งมาลองชิมกันได้ ในราคาชามละ 25 บาท
ก๋วยเตี๋ยวผัดไทกุ้งสดห่อไข่... เขาจะนำเส้นเล็กไปผัดในกระทะปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกที่เคี่ยวผสมมากับน้ำตาลปึก ใส่เต้าหู้ หัวไชโป๊ กุ้งแห้ง กุ้งสด ใบกุ่ยช่าย ถั่วงอก ผัดแบบแห้งๆ หอมกลิ่นกระทะห่ออยู่ในไข่แผ่นบางเบา เสิร์ฟพร้อม มะนาว มะม่วงดิบซอย มะเฟือง หัวปลี ถั่งงอกดิบ ต้นกุ่ยช่าย ถั่วลิสงป่น พริกขี้หนูป่นทำเองใหม่สดทุกวันไม่ต้องกลัวเชื้อรา คลุกเคล้าเครื่องปรุงทุกอย่างให้เข้ากันใส่ปากเคี้ยวกินได้อร่อยลิ้น ในราคาจานละ 25-30-35 บาท
และในช่วงเช้ามืดตั้งแต่ตี 5 เขาจะมีข้าวราดแกงไว้บริการ มีให้เลือกรับประทานกันหลายอย่าง แต่จะเอร็ดอร่อยสักปานใดนั้น “แม่ลิ้นจี่” ไม่กล้าการันตีเหตุเพราะมาไม่ทันได้ชิมในช่วงเช้า แต่ถ้าไม่อร่อยก็คงจะไม่ยืนหยัดขายกันมานานถึง 48 ปี อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะให้สั่งมาดื่มด่ำกันก็คือ “น้ำมะนาวสด” ฝีมือแม่กิมเอ็ง แม้จะอายุถึง 86 ปีก็ยังมีเรี่ยวมีแรงมาคั้นน้ำมะนาวให้ลูกหลานได้ลิ้มลอง
ที่ร้าน “สถาพร” เขาจะเปิดบริการกันทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-16.00 น . สะดวกกันเวลาไหนก็แวะเวียนมาเยี่ยมชิมกันได้ ที่ร้านนี้จะเป็นเรือนแถวไม้ร่มรื่นนั่งได้ทั้งในร้านและนอกร้านใต้ร่มไม้ใหญ่ สถานที่ตั้งจะอยู่ริมถนนทางเข้าวัดพระพุทธบาท เริ่มต้นจากตัวจังหวัดสระบุรีขับรถเลยขึ้นไปตามเส้นทางถนนพหลโยธินอีก 30 ก.ม. ก็จะถึงอำเภอพระพุทธบาท เลี้ยวเข้าซุ้มประตูวัดไปประมาณ 50 เมตร ก็จะเห็นร้านอยู่ด้านซ้ายจอดรถได้ที่หน้าร้าน หรือถ้าเกรงว่าจะหากันไม่เจอก็โทรศัพท์มาสอบถามเส้นทางกันก่อน ได้ที่ 036-266-377
http://www.fwdder.com/topic/214318
| 
