ผู้ตรวจยุติสอบว.5โฟร์ซั่นไม่พบหลักฐานยันไม่ชู้สาว–ชี้บ้านหลังแรกไม่เอื้อประโยชน์เอสซีฯ | พระพุทธบาทดอทคอม

ผู้ตรวจยุติสอบว.5โฟร์ซั่นไม่พบหลักฐานยันไม่ชู้สาว–ชี้บ้านหลังแรกไม่เอื้อประโยชน์เอสซีฯ




  เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 13 ก.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการผู้ตรวจ แถลงถึงผลการวินิจฉับกรณีที่นายจาตุรันต์ บุญเบญจรัตน์ และคณะ ยื่นร้องเรียนกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่เข้าร่วมประชุมสภาฯ โดยเดินทางไปทำธุระส่วนตัว อันอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน ในช่วงเวลาที่มีการประชุมสภาฯ ซึ่งเป็นการกระทำที่อาจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ.2551 และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง ไปพบนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ในเวลาราชการ เป็นการหารือที่เปิดเผยและเลือกหารือเฉพาะกลุ่มบุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด อันอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนในกระบวนการกำหนดนโยบายของรัฐบาล

รวมทั้งนางกาญจนี วัลยะเสวี และคณะ ยื่นร้องเรียนนายกรัฐมนตรี ว่าการไปพบนักธุรกิจอสังหาริมทระย์ ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น อาจเป็นเรื่องขัดดต่อจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐตามรัฐธรรมนูญ 2550 ม.279 นั้น จากการพิจารณาสอบสวนข้อเท็จจริงสรุปได้ว่า การที่นายกรัฐมนตรีไม่เข้าร่วมประชุมสภาฯ ในวันที่ 8 ก.พ. 2555

และจากการชี้แจงของนายกรัฐมนตรี การประชุมวันดังกล่าว ในช่วงแรกยังไม่มีประเด็นที่นายกรัฐมนตรี ต้องชี้แจงต่อที่ประชุม และเมื่อมีงานในความรับผิดชอบที่ต้องเร่งรัดเพื่อแก้ปัฐญหาความเดือดร้อนของประชาชน จึงไม่ได้อยู่ร่วมในห้องประชุมสภาฯ ในช่วงต้น แต่เมื่อเสร็จภารกิจแล้วก็เดินทางกลับ เพื่อร่วมรับฟังและสอบถามประเด็นที่มีการอภิปรายอยู่ในสภาฯ รวมทั้งได้ลงชื่อการประชุมการประชุมสภาฯ ดังนั้นกรณีดังกล่าวจึงไม่อาจถือได้ว่านายกรัฐมนตรี ขาดการประชุม จึงไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่ากระทำฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมือง พ.ศ.2551


ส่วนข้อร้องเรียนว่านายกรัฐมนตรี เดินทางไปพบนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พร้อมนายกิตติรัตน์ นั้น เมื่อพิจารณาหลักฐาน ยังไม่ปรากฎหลักฐานที่ชี้ชัดว่ามีการกระทำที่เอื้อประโยชน์ทางธุรกิจ หรือมีการกระทำที่นำไปสู่การได้ประโยชน์ของกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จึงยังไม่อาจถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ฝ่ายฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม  และไม่พบว่าการเดินทางไปพบนักธุรกิจออสังหาริมทรัพย์ ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น เป็นการกระทำที่ส่อไปในทางชู้สาว ตามที่มีผู้ร้องเรียน เนื่องจากเห็นว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่เปิด และมีผู้ร่วมเดินทางไปกับนายกรัฐมนตรีด้วยหลายคน ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินจึงวินิจฉัยให้ยุติการพิจารณาเรื่องดังกล่าว


ชี้โครงการบ้านหลังแรกไม่เอื้อเอสซีฯ

นอกจากนี้นายรักษเกชา ยังกล่าวถึงกรณีที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องร้องเรียนกรณีนโยบายบ้านหลังแรกของรัฐบาล ว่าปฏิบัติผิดมาตรฐานทางจริยธรรม ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีผลประโยชน์ทับซ้อนนั้น จากการพิจารณาข้อเท็จจริงตรวจสอบพบว่า กระทรวงการคลัง เป็นหน่วยงานที่มีหน้ารับผิดชอบในการนำนโยบายนำไปสู่การปฏิบัติ โดยเสนอมาตรการทางภาษี เพื่อช่วยเหลฃือประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ด้วยการกำหนดมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ ไม่เกิน 5 ล้านบาทนั้น เห็นว่าเป็นการริเริ่มและกระทรวงการคลังเสนอโครงการมาตั้งแต่แรก ซึ่งเป็นการกำหนดตามนโยบายรัฐบาล

ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนว่า บ.เอสซีแอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) มีส่วนเกี่ยวข้องและได้รับผลประโยชน์จากนโยบายบ้านหลังแรกหรือไม่นั้น พบว่าบริษัทดังกล่าวมีทั้งหมด 38 โครงการ แต่อยู่ในข่ายจะได้ผลประโยชน์จากโครงการบ้านหลังแรกเพียง 9 โครงการและมีราคาขายยูนิตไม่เกิน 5 ล้านบาท 409 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าโครงการเพียงร้อยละ 4.39 ของมูลโครงการที่เปิดขายในปี 2554-2555 ทั้งนี้ยังพบว่าในบริษัทดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดย บลจ.แอสเซทพลัส จำกัด มีสัดส่วนการถือหุ้นจำนวนร้อยละ 0.85 ของผู้ถือหุ้นทั้งหมด

และเมื่อพิจารณาจาก พ.ร.บ.การจัดการหุ้มนส่วนและหุ้มส่วนของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 ที่บัญญัตว่ารัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้มส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัท หรือไม่คงไว้ในความเป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท เว้นแต่กรณีในบริษัทจำกัดหรือมหาชน จำกัด รัฐมนตรีเป็นผู้ถือหุ้นได้ไม่เกินร้อยละ 5 ได้ไม่เกินหุ้นทั้งหมด ที่จำหน่ายได้ในบริษัทนั้น จึงเห็นว่าการถือหุ้นของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่เป็นการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ของรัฐธรรมนูญ


ยัน“ยิ่งลักษณ์” ไม่ขัดจริยธรรม แจ้งเจ้าตัวแล้ว

ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงเห็นว่าเมื่อข้อเท็จจริงยังไม่อาจสรุปได้ว่ามีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ.2551 จึงวินิจฉัยให้ยุติการพิจารณา พร้อมทั้งมีหนังสือแจ้งผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงวันที่ 12 ก.ค. 55 ถึงนายกรัฐมนตรี และผู้ร้องทั้ง 2 กรณีเพื่อรับทราบแล้ว

Related Articels

0 ความคิดเห็น

Leave a Reply


ดูแลโดย © กุ้งอินเตอร์ kunginternews | เยี่ยมชมเว็ปไซค์ กุ้งอินเตอร์นิวส์